วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

อำเภอคลองขลุง


วัดคฤหบดีสงฆ์ (Wat Karuhabodeesong)
   อยู่ที่บ้านท่าพุทรา หมู่ที่ 3 ตำบลท่าพุทรา อำเภอคลองขลุง ห่างจากถนนสายพหลโยธิน ประมาณ 200 เมตร ถ้าเดินทางจากจังหวัดนครสวรรค์ ไปทางเหนือตามถนนพหลโยธิน ทางวัดจะอยู่ทางขวามือ จะมีป้ายบอกทางเข้าบ้านท่าพุทรา ระหว่าง กิโลเมตรที่ 83-84 และ จากจังหวัดกำแพงเพชร ไปทางใต้ตามถนนสายพหลโยธิน ทางเข้าวัดจะอยู่ทางซ้ายมือระหว่างกิโลเมตรที่ 37-38 มีป้ายบอกว่าเข้าบ้านท่าพุทรา
          วัดนี้เป็นเก่าแก่วัดหนึ่งในเขตอำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร คงมีอายุเป็นร้อยปี ทั้งนี้ เพราะมีคนแก่ที่บ้านท่าพุทราเองเล่าให้ฟังว่า เมื่อเกิดมาจำความได้ก็เห็นมีวัดมาแล้วอย่างนี้ ตามที่สันนิษฐานดูแล้ว บ้านท่าพุทราเป็นหมู่บ้านที่เก่าแก่มาก ตามปกติคนไทยเรานับถือพระพุทธศาสนา มีศาสนาพุทธเป็นที่พึ่งทางจิตใจ เมื่อไปอยู่ที่แห่งใดก็ต้องสร้างวัดขึ้นมา พร้อมกับหมู่บ้านเพื่อเป็นที่ทำบุญ และเพื่อเป็นที่ประกอบการกุศลอื่น ๆ อีก เช่น บวชลูกหลานเป็นต้น เพราะคนไทยถือว่า ถ้าเป็นผู้ชายเมื่ออายุครบ  20 ปี บริบูรณ์  จะต้องบวชพระกันทุกคน ถ้าไม่บวชเรียกว่าคนดิบ ฉะนั้น วัดท่าพุทรานี้ก็คงจะสร้างขึ้นมาพร้อมกับบ้านท่าพุทรา ถึงจะหลังบ้างก็คงไม่กี่ปี แต่อย่างไรก็ดี ก็ยังไม่มีใครทราบแน่นอนว่าสร้างกันขึ้นมาแต่เมื่อไร ต่อมาได้รับเป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง เมื่อ พ.ศ.2511
           ที่ดินที่สร้างวัดมีจำนวน 20 ไร่ 2 งาน 54 ตารางวา ทิศเหนือจดที่ดินนายยั้ว คชวารี ทิศใต้จดถนนกรมทางเข้าตลาดท่าพุทรา ทิศตะวันออกจดแม่น้ำปิง ทิศตะวันตกจดคลองยาง
ปูชนียวัตถุที่สำคัญของวัด
1.พระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 2 เมตร สร้างด้วยปูน ประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถหลังเก่า
2.รอยพระพุทธบาทจำลอง ประดิษฐานอยู่ภายในมณฑป
   
3.พระพุทธชินราชจำลอง หน้าตักกว้าง 50 นิ้วฟุต สร้างด้วยโลหะ คุณหมออินทร์ จันทภาษา เป็นผู้สร้าง ประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถหลังใหม่
4.พระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 2.75 เมตร สร้างด้วยปูน ประดิษฐานอยู่ภายในพระวิหาร มุมตะวันออกด้านใต้ของวัด
  
ถาวรวัตถุของวัด
1.พระอุโบสถหลังเก่า ยาว 11.45 เมตร กว้าง 5.65 เมตร หลังคามุงกระเบื้องปูน
2.พระอุโบสถหลังใหม่ ยาว 22.22 เมตร กว้าง 9.00 เมตร หลังคามุงกระเบื้องเคลือบ
  
3.พระวิหาร 1 หลัง ยาว 11.75 เมตรา กว้าง 8.10 เมตร หลังคามุงสังกะสีแดง
4.ศาลาการเปรียญ 1 หลัง เสาปูนพื้นไม้ ยาว 26 เมตร กว้าง 16 เมตร หลังคามุงกระเบื้องลูกฟูก
  
5.หอสวดมนต์ 1 หลัง สองชั้นยาว 13.29 เมตร กว้าง 16 เมตร หลังคามุงกระเบื้องลูกฟูก
6.โรงเรียนปริยัติธรรม 1 หลัง สร้างด้วยไม้ชั้นเดียว ยาว 24 เมตร กว้าง 11.70 เมตร หลังคามุงสังกะสี ปัจจุบันใช้เป็นสนามสอบธรรม สนามหลวงทุกปี ฯลฯ และยังมีสิ่งก่อสร้างอื่น อีกหลายรายการ
          วัดคฤหบดีสงฆ์ เป็นวัดที่อยู่คู่บ้านท่าพุทรามานาน และมีเหรียญและพระ ที่มีผู้ที่เคารพนับถือและมีชื่อเสียงมาก คือ “หลวงพ่อปลอดภัย”
วัดจันทาราม (Wat Chantharam)
  
  
ตั้งอยู่ที่ 1 บ้านวังแขม หมู่ที่ 1 ตำบลวังแขม อำเภอคลองขลุง สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีเนื้อที่ 17 ไร่ 83 ตารางวา อยู่ริมแม่น้ำปิงทางด้านทิศตะวันออก สร้างขึ้นเป็นวัดมาเป็นเวลานาน ตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ.2225 เคยเป็นวัดที่ร้างมาเป็นเวลานาน และ ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่ ชาวบ้านในแทบนั้นมักนิยมเรียกชื่อวัดตามชื่อของหมู่บ้านว่า  “วัดวังแขม” และ ต่อมาได้รับการพัฒนาเป็นหลักฐานมั่นคงเริ่มมาตั้งแต่ ปี พ.ศ.2420 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 ได้เคยเสด็จประพาททางชลมารค และทรงแวะประทับพักแรมที่ปะรำพิธีที่หาดทรายหน้าวัดนี้ด้วย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2507 วัดจันทาราม จึงได้รับการพัฒนาเรื่อย ๆ มา จนได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2523
  
            วัดแห่งนี้มีพระพุทธรูปที่สาคัญคือ หลวงพ่อศรีมงคล พระประธานในอุโบสถหลังเก่า “ปางมารวิชัย” เป็นที่เคารพนับถือของประชาชนเป็นอย่างมาก และตามที่ นายร่อน มีชัย อายุ  81 ปี  ได้เล่าว่า วิหารที่หลวงพ่อศรีมงคล ประดิษฐานอยู่ในปัจจุบันนี้ สันนิฐานว่าชาวพม่าเป็นผู้สร้างขึ้น เพราะว่าวิหารหลวงพ่อศรีมงคลได้หันหน้าไปทางทิศตะวันตก เป็นทิศของประเทศของพม่า และไม่ทราบว่าสร้างในปีใดและพ.ศ.ใด ทราบแต่ว่าเป็นวิหารที่เก่าแก่มาก ตามที่คนเก่าแก่เล่ามา เป็นเวลานับหลายร้อยปี(จากการสอบถามเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร ผู้มาบูรณปฏิสังขรณ์ทราบว่า สร้างสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ราวรัชกาลที่2-3)
  
              ส่วนรอยพระพุทธบาทจำลองที่เป็นเนื้อโลหะ ประดิษฐานอยู่ในวิหารหลวงพ่อศรีมงคล ไม่มีใครทราบที่แน่ชัดว่าได้มาอย่างไร และตั้งแต่เมื่อปีใด และ พ.ศ.ใด จากการสอบถามผู้เฒ่าผู้แก่ เช่น ลุงร่อน มีชัยและลุงเหรียญ นาคนาม ที่เป็นบุคคลที่อยู่ใกล้เคียงกับวัด มาโดยตลอด บอกว่าตั้งแต่เป็นเด็กนักเรียน อยู่โรงเรียนวัดก็ได้เห็นรอยพระพุทธบาทมีอยู่ในวิหารหลวงพ่อศรีมงคลแล้ว ต่อจากนั้นลุงเหรียญยังบอก รอยพระพุทธบาทจำลอง อีกว่ามีตัวอักษรอยู่ที่ใบสีมาวิหารหลวงพ่อศรีมงคล และเป็นตัวเลข ว่า ร.ศ.120 (เป็นรัตนโกสินทร์ศักราช ถ้าเราต้องการแปลงเป็นพุทธศักราช ให้ใช้ 2324 บวก ร.ศ. จะได้เป็นปีพุทธศักราช) เมื่อทางวัดมีงานเทศกาล ใดๆ เช่น งานประจำปีปิดทองไหว้พระ ก็จะยกรอยพระพุทธบาทจำลองออกมาให้ชาวบ้านได้ปิดทองรอยพระพุทธบาทกันเป็นประจำ ต่อมาทางคณะกรรมการวัด ก็จะนำออกมาให้ชาวบ้านได้ปิดทองกันในวันงานเป็นประจำทุกปีจนถึงปัจจุบันนี้ แต่ในตอนนี้ฝาที่สาหรับปิด-เปิดไว้ใส่ปัจจัย ได้ถูกพวกมิจฉาชีพลักไปเสียแล้ว ทางวัดก็ไม่ทราบว่าถูกลักไปตั้งแต่เมื่อไรเช่นกัน สำหรับในตอนนี้พระที่วัดได้ช่วยกันเอาไปเก็บไว้ที่อุโบสถหลังใหม่(ราว พ.ศ.2538 ได้ไปสำรวจวัดจันทาราม พบพระวิหารหลวงพ่อศรีมงคล และรอยพระพุทธบาทอยู่สภาพทิ้งร้าง เพราะพระวิหารชำรุด
ศาลเจ้าแม่ทองฮูก (San Chao Mae Tong Who)
ตั้งอยู่ที่ตำบลวังแขม อำเภอคลองขลุง เป็นศาลเจ้าที่อยู่คู่บ้านบึงลาดมานาน เป็นที่เคารพนับถือของประชาชนทั่วไป
บริเวณริมปิง (Side Ping)
  
  
ช่วงบริเวณ ม.5 และ ม.4 มีบริเวณริมฝั่งที่สวยงาม โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์ จะมีหาดทรายสำหรับเล่นน้ำ อีกทั้งบริเวณริมฝั่ง ม.4 จะมีปลาธรรมชาติ มาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นบริเวณที่แม่น้ำปิงไหลมาบรรจบกันเป็นแม่น้ำสองสี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น